
ครอบครัวของผมเพิ่งย้ายเข้าบ้านเก่าหลังหนึ่งที่อยู่มานานกว่า 50 ปี คุณยายเจ้าของเก่าเสียไปแล้ว 3 ปี คนละแวกเตือนพร้อมเพรียงว่า “บ้านนั้นมีผีสิงนะ เห็นแสงไฟเปิดปิดเองตอนกลางคืน”
ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางเท่าไหร่ คิดว่าคงเป็นแค่ไฟฟ้าลัดวงจร… จนกระทั่งคืนแรกที่ย้ายเข้ามา
คืนที่ 1: การต่อสู้ครั้งแรก
ตอนตี 2 ผมนอนดูซีรีส์ในมือถือ จู่ ๆ ได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ แต่ชัดเจน
“ปิดไฟด้วย… ค่าไฟแพงแล้ว…”
ผมสะดุ้งตื่น เหงื่อออกเต็มหน้าผาก มองไปรอบ ๆ ไม่เห็นอะไร เลยคิดว่าคงหูฝาดไป พอจะหลับต่อ เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก
“หลอดไฟ LED ประหยัดกว่านะ… ลองเปลี่ยนดูสิ…”
คืนที่ 3: เหตุการณ์ถุงขยะลึกลับ
ผมกำลังจะทิ้งขยะตอนเที่ยงคืน พอเดินไปที่ประตูหลัง ถุงขยะในมือก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะหยิบไม่ไหว
จู่ ๆ ถุงขยะก็แยกออกเป็น 3 ใบเอง บินลอยไปวางที่ถังขยะต่างสี พร้อมกับเสียงแผ่ว ๆ ดังมาจากอากาศ
“แยกขยะให้ถูกประเภทด้วยนะลูก… ขยะเปียกใส่เขียว ขยะแห้งใส่เหลือง รีไซเคิลใส่น้ำเงิน…”
ผมนี่งงมาก เพราะบ้านเราไม่มีถังขยะสามสี แต่พอเช้ามา ถังขยะสามใบก็ปรากฏหน้าบ้านเรียงเป็นแถว พร้อมป้ายเขียนด้วยลายมือโบราณ
สัปดาห์ที่ 2: สงครามน้ำประปา
ช่วงนี้ผมเครียดกับงาน เลยลืมรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านบ่อย ๆ วันหนึ่งตื่นสายจนลืมไปอีก พอเดินออกไปดู ต้นไม้ทุกต้นสดชื่นเหมือนเพิ่งรดน้ำเสร็จ
แต่ที่แปลกคือ มีโน้ตเล็ก ๆ ปักอยู่ข้างกระถาง เขียนด้วยลายมือสั่น ๆ:
“น้ำประปาแพงแล้วนะลูก ใช้น้ำฝนดีกว่า ยายทำถังรองน้ำฝนให้แล้ว อยู่หลังบ้าน”
พอไปดู ก็มีถังสีฟ้าใหญ่ ๆ ตั้งอยู่หลังบ้านจริง ๆ ไม่รู้มาจากไหน
เดือนที่ 2: การปรากฏตัวของคุณยายผี
วันหนึ่งผมกำลังกินมาม่าคัพ พร้อมเปิดแอร์เต็มที่ จู่ ๆ เสียงแก่ ๆ ก็ดังใสหู
“หลานชาย! กินแต่อาหารกึ่งสำเร็จรูป แอร์เปิดหนาวจัง เปลืองไฟ เปลืองเงิน เปลืองสุขภาพ!”
ผมเงยหน้าขึ้น เห็นคุณยายผู้หญิงตัวโปร่งแสง ใส่ผ้าถุงลายดอกไม้ ยืนลอยอยู่ตรงหน้า ถือไม้กวาดในมือ
“หลาน ๆ กิน!”
คุณยายผีโบกไม้กวาด ก๊วยเตี๋ยวน้ำใสชามโตก็ปรากฏบนโต๊ะ กลิ่นหอมฟุ้ง
“ยายทำเอง ผักปลูกหลังบ้าน ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารเคมี สุขภาพดี ประหยัดเงิน”
เดือนที่ 3: ความจริงที่น่าตกใจ
วันหนึ่งผมเก็บความกล้าถามคุณยายผี
“ยายครับ ทำไมยายถึงห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมขนาดนี้?”
คุณยายผีถอนหายใจยาว ๆ
“ตอนยายยังมีชีวิต ยายไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้เลย ใช้น้ำฟุ่มเฟือย เปิดไฟทิ้งไว้ ทิ้งขยะไม่แยกประเภท พอตายแล้วมาอยู่ที่นี่ต่อ ก็เห็นโลกเปลี่ยนไปมาก อากาศร้อนขึ้น น้ำแพงขึ้น”
“ยายเลยคิดว่า ถ้าจะอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป ก็อยากให้คนที่มาอยู่หลังยายใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าของธรรมชาติ”
ปัจจุบัน
ตอนนี้ผมอยู่กับคุณยายผีมา 6 เดือนแล้ว บ้านเราประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 2,000 บาท ผักที่ปลูกเองกินไม่หมด ถังรองน้ำฝนทำให้ไม่ต้องเสียค่าน้ำเยอะ
เพื่อนบ้านที่เคยกลัวผีตอนนี้เริ่มสนใจเทคนิคประหยัดพลังงานของเรา บางคนขอมาดูถังคอมโพสต์ที่คุณยายผีสอนทำ
แค่สิ่งเดียวที่ยังปรับตัวไม่ได้คือ… คุณยายผีชอบปิดแอร์ตอนเที่ยงคืน แล้วเปิดพัดลมใส่แทน พร้อมพูดว่า
“ลมธรรมชาติดีที่สุดแล้วลูก นอนหลับสบายกว่าแอร์อีก”
สงสัยปียหน้าค่าไฟเราจะเหลือแค่หลักร้อยบาทแล้วล่ะครับเนี่ย!
หมายเหตุ: ถ้าใครอยากมีผีบ้านแบบนี้ ลองประหยัดไฟฟ้าดู อาจจะมีคุณยายผีมาให้คำแนะนำเพิ่มเติมก็ได้นะครับ!